
ไร่ดอกคัตเตอร์ เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

ไร่ดอกคัตเตอร์ที่เขาค้อ
อาชีพที่สร้างรายได้พอกินพอใช้ ของคนเพชรบูรณ์ จำได้ว่า...เคยเดินทางไปเที่ยวอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ก็เมื่อหลายปีที่แล้ว จนนึกไม่ออกว่า ทุกวันนี้เขาค้อจะยังคงสวยงามอย่างที่เคยเจอเมื่อครั้งกระโน้นหรือเปล่า แต่แล้วล่าสุดก็มีโอกาสได้มาเยือนเขาค้ออีกครั้ง โดยได้รับการอำนวยความสะดวกจาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือที่รู้จักกันในนาม (ธกส.) เป็นผู้พาเรามาสัมผัสบรรยากาศและความเป็นอยู่ของคนที่นี่
เป้าหมายหลักของการเดินทางมาเขาค้อ นั่นคือ...การเยี่ยมชมกิจการลูกค้าของ ธกส. ที่ได้รับสินเชื่อมาใช้เพื่อการเกษตรว่าประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด และที่แรกที่เราได้แวะชมนั่นคือ ไร่ดอกคัตเตอร์ของคุณสมชาย จันลี และคุณลำพูน จันลี สองสามีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากเจ้าของไร่คัตเตอร์ ที่ได้ช่วยกันก่อร่างสร้างตัวจากที่ไม่มีอะไร ให้ทุกวันนี้เป็นวันที่มีความสุข ครอบครัวมีกินมีใช้อย่างไม่ขัดสน ลูกๆ ได้เรียนกันอย่างสบาย และที่สำคัญคือไม่ต้องดิ้นรนออกไปหางานทำที่เมืองหลวงให้ยุ่งยาก จนทำให้ผู้เขียนเกิดความอิจฉาขึ้นมานิดๆ คุณสมชาย จันลี เจ้าของไร่ดอกคัตเตอร์ ที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จกับการปลูกดอกไม้ ได้เล่าถึงความเป็นมาของการทำไร่ดอกคัตเตอร์ให้ฟังว่า เมื่อก่อนตนเคยประกอบอาชีพ ปลูกผักกะหล่ำแต่ว่าได้ราคาขายไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้สถานะการเงินที่บ้านขาดแคลนไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น
จึงได้ปรึกษากับภรรยา คือคุณลำพูน จันลี ว่าจะทำอะไรดี จึงจะทำให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการปลูกกะหล่ำกว่าใช้เวลาเก็บเกี่ยวนาน และยากต่อการดูแล ดังนั้นเราจึงได้ตกลงกันที่จะทดลองรับดอกคัตเตอร์จากเชียงใหม่มาขายที่พิษณุโลก ปรากฏว่าได้กำไรดีแต่ต้องเดินทางบ่อย นั่นจึงเป็นที่มาให้ตัดสินใจที่จะปลูกดอกคัตเตอร์ขายเองด้วยพื้นที่ที่มีอยู่ 1 ไร่ กับอีก 2 งาน ด้านคุณลำพูน จันลี ภรรยาของคุณสมชาย กล่าวเสริมว่า... หลังจากที่รับดอกไม้มาขายอยู่ประมาณ 4 ปี ก็ได้รับแนะจากแม่ค้าขายดอกไม้ที่เชียงใหม่ว่า น่าจะปลูกดอกคัตเตอร์ขายเอง เพราะอากาศที่เขาค้อดีกว่าเชียงใหม่ และพื้นที่ก็เหมาะแก่การเพาะปลูก ตนและสามีจึงได้ปรึกษากันอีกครั้ง และได้ตัดสินใจเริ่มลงมือปลูกดอกคัตเตอร์ โดยใช้พื้นที่บริเวณบ้านประมาณ 1 ไร่ กับอีก 2 งาน เป็นแปลงปลูก เริ่มแรกก็ปลูกแซมกันไปกับดอกเบญจมาศก่อน แต่ตอนนั้นราคาขายส่งดอกเบญจมาศไม่สู้ดีนัก จึงได้เปลี่ยนมาเป็นแปลงปลูกดอกคัตเตอร์เพียงอย่างเดียว โดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นประมาณ 14,000 บาท เพื่อซื้อหลอดไฟมาใช้ในแปลงดอกคัตเตอร์ และกู้ยืมจาก ธกส.มาส่วนหนึ่งเพื่อซื้อรถกระบะมาใช้ในการขนส่ง
คุณลำพูน ยังกล่าวอีกว่า.. ตลาดของเราจอยู่ที่จังหวัดพิษณุโลกและปากคลองตลาด ราคาส่งอยู่ที่ 40-50 บาทต่อกิโลกรัม แต่ถ้าเป็นช่วงเทศกาล เช่น วาเลนไทน์ ออกพรรษา จะได้ราคาส่งที่สูงขึ้นประมาณ 70-80 บาท ต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเก็บเกี่ยวกำไรของชาวสวนที่ลงแรงมาตลอดทั้งปี ด้านผลผลิตสามารถเก็บเกี่ยวได้ทุกวันวันละประมาณ 200 กิโลกรัม เพื่อนำไปขายส่งยังตลาดพิษณุโลก ซึ่งในหนึ่งแปลงจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 2 ครั้ง เมื่อเก็บจนหมดแปลงจึงค่อยตัดลำต้นให้เหลือแต่ตอแล้วค่อยอนุบาลต้นใหม่ ใช้เวลา 3 เดือนก็สามารถเก็บดอกได้อีก สำหรับปุ๋ยที่ใช้จะคือสูตร 15 และที่สำคัญที่สุด คือจะต้องคอยดูแลไม่ให้ดอกโดนน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้ช้ำ ไม่สามารถนำออกขายได้ สองสามีภรรยายังบอกอีกว่า ตั้งแต่หันมาปลูกดอกคัตเตอร์ ชีวิตก็ดีขึ้น ฐานะทางบ้านไม่ขัดสน ซึ่งรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท เม็ดเงินจากแปลงดอกคัตเตอร์ 1 ไร่ กับอีก 2 งาน สามารถส่งเสียลูกให้เรียนจบได้ในระดับสูง ครอบครัวมีความสุข ไม่ต้องดิ้นรนออกไปหางานทำที่กรุงเทพ เหมือนครอบครัวอื่น ที่สำคัญใครที่คิดอยากจะทำไร่ดอกไม้แล้วล่ะก็ จะต้องมีใจรักจริงๆ พยายาม ศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยากทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่ว่าทำไปแล้วพอไม่ประสบผลสำเร็จก็รีบวางมือ ของทุกอย่างจะต้องใจเย็นๆค่อยเป็นค่อยไป แล้วไม่นานทุกอย่างจะเข้ารูปเข้ารอยเอง บทสรุปในการมาเขาค้อครั้งนี้ไม่เสียเที่ยวจริงๆ นอกจากจะได้เดินลัดเลาะชมสวนดอกคัตเตอร์ให้ชื่นใจแล้ว ยังได้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกดอกคัตเตอร์อีกด้วย ใครจะคิดว่าพื้นที่ 1 ไร่ กับอีก 2 งาน จะสามารถสร้างดอกออกผลให้เกษตรกรชาวเพชรบูรณ์คู่นี้ได้อย่างมหาศาล ส่วนท่านผู้อ่านที่สนใจอยากได้ความรู้เป็นวิทยาธาร หรือถ้าใครอยู่ใกล้เขาค้ออยากจะไปรับซื้อดอกคัตเตอร์จากไร่พี่สมชาย ก็ตรงไปได้ที่ 62/1 ม.5 ต.ทุ่งสมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 08-6932-1858
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น